พระราชกำหนด ควบคุมและดําเนินงานภารธุระการทําเหมืองแร่ทองคํา พ.ศ. 2483 (อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาออกกฎหมายเพื่อยกเลิกพระราชกำหนดดังกล่าว)
ปีที่ประกาศใช้ พ.ศ. 2483
สรุปสาระสำคัญของพระราชกำหนด ควบคุมและดําเนินงานภารธุระการทําเหมืองแร่ทองคํา พ.ศ. 2483 รัฐบาลมีอำนาจเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ซึ่งใช้ในภารธุระการทำเหมืองแร่ทองคำ รวมทั้งที่ดิน อาคาร เครื่องดำเนินงาน เครื่องจักรกล เครื่องอุปกรณ์ และสิ่งอื่นใดที่จำเป็นในการดำเนินงานแห่งภารธุระ เมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเจ้าพนักงานมีอำนาจที่จะเข้าไปและตรวจสถานที่ต่าง ๆ และร้องขอเจ้าของ ผู้ปกครอง หรือผู้จัดการภารธุระนั้น ให้นำแสดงสมุดบัญชีและเอกสารอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการทราบภาวะการดำเนินงาน สมรรถภาพในทางอุตสาหกรรม และความสามารถกระทำผลิตกรรมแห่งภารธุระ ถ้าเจ้าของ ผู้ปกครอง หรือผู้จัดการ ไม่ยอมให้เข้าครอบครอง หรือขัดขวาง เจ้าพนักงานจะเข้าครอบครองโดยบังคับด้วยความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ปกครองท้องที่และตำรวจก็ได้ ในการเข้าครอบครองภารธุระ ให้เจ้าพนักงานทำบัญชีอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ที่เข้าครอบครอง โดยมีหนังสือนัดหมายเจ้าของ ผู้ปกครอง หรือผู้จัดการ หรือผู้แทนของบุคคลนั้น ๆ ให้มาอยู่ด้วย การทำบัญชีให้ทำต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนและให้ทุกคนที่อยู่ในการทำบัญชีนั้นลงนามในบัญชีด้วย เมื่อยามฉุกเฉินถึงที่สุดลงแล้ว ให้มีประกาศยกเลิกประกาศที่อนุญาตให้เข้าครอบครองภารธุระ ก่อนที่จะออกจากสถานที่ต่าง ๆ ให้เจ้าพนักงานเชิญเจ้าของผู้ปกครอง หรือผู้จัดการ หรือผู้แทนของบุคคลนั้น ๆ มาสอบดูสิ่งของที่ปรากฏในบัญชีว่า คงมีอยู่หรือไม่ และ ให้บันทึกไว้ว่ามีสิ่งของใด ๆ ได้สูญหายไปบ้าง และมีความเสียหายหรือได้ถูกทำลายไปบ้างหรือไม่ แต่ถ้ารัฐบาลเห็นสมควรจะให้ดำเนินงานแห่งภารธุระนั้นต่อไป รัฐบาลจะเสนอขอซื้อภารธุระนั้นจากเจ้าของก็ได้ ถ้าในขณะเข้าครอบครอง ภารธุระได้หยุดหรือสะดุดหยุดลงในการดำเนินงานตามภาวะเช่นเคยและเพื่อประโยชน์ปกติแล้ว จะปฏิเสธคำเสนอของรัฐบาลไม่ได้ ถ้าไม่ตกลงกันในเรื่องราคา ก็ให้ระงับปัญหาด้วยเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒, ๒๓ และ ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พุทธศักราช ๒๔๗๗ โดยอนุโลม ค่าทดแทนให้ใช้เฉพาะสำหรับค่าที่เสียไปเนื่องจากการที่ต้องปราศจากการครอบครองทรัพย์สินนั้น ๆ ค่าสึกหรอ และค่าที่สูญสิ้นหรือเสียหายด้วยเหตุอื่นนอกจากเหตุสุดวิสัย